จริง ๆ ในการขับรถหรือการเดินทาง นอกจากสภาพรถที่ต้องพร้อมและควรจะต้องมีการทำประกันรถที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมแล้ว เราก็ไม่ควรมองข้ามบางสิ่งที่อยู่บนเส้นทางที่เราเดินทางด้วย เวลาที่เราขับรถออกไปเส้นทางมุ่งออกต่างจังหวัด สิ่งหนึ่งที่เรามักจะต้องเห็นเสมอบนถนนทางหลวงเลยก็คือ แท่งปูนสีขาว ๆ รูปร่างอวบ ๆ ปลายยอดจะเป็นทรงแหลมตัด ซึ่งเรารู้จักเจ้าแท่งสีขาวเหล่านี้ในนาม “หลักกิโลเมตร” หรือเรียกสั้น ๆ ว่าหลักกิโลก็ได้ สิ่งนี้จะอยู่คู่เส้นทางตลอดการเดินทางของเรา จริง ๆ แล้วสิ่งนี้ก็มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยเลยนะ
จุดเริ่มต้นการใช้หลักกิโลบนถนนทางหลวง
เมื่อสืบค้นกลับไป ก็ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าหลักกิโลเมตรที่เราใช้กันบนถนนทางหลวงต่าง ๆ นั้น เริ่มต้นใช้กันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ตอนไหน แต่มีการสันนิษฐานกันว่า
- น่าจะเริ่มใช้ครั้งแรกในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในช่วงปี พ.ศ.2481 ซึ่งในตอนนั้นได้มีการสร้างและเปิดใช้ทางหลวงหมาย 1 ซึ่งก็คือถนนพหลโยธิน
- สำหรับจุดประสงค์ของการให้ปักหลักกิโลเมตรก็คือ มีไว้ก็เพื่อบอกระยะทาง เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางนั่นเอง
โดยในสมัยนั้นยังไม่มีเรื่องระบบอำนวยความสะดวกในการขับขี่เดินทางเหมือนในสมัยปัจจุบัน ที่มีทั้งป้ายบอกทาง สารพัดแบบ มีกฎหมายบังคับให้ทำพ.ร.บ. หรือทำประกันรถแบบภาคสมัครใจ ในตอนนั้นสิ่งที่พอจะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวกในการเดินทางก็คงจะมีแค่หลักกิโลนี่เอง ที่ทำให้ผู้ขับขี่เดินทางไปได้อย่างมั่นใจ
หลักกิโลเมตรไม่ได้มีประโยชน์กับเราผู้ขับขี่เพียงอย่างเดียว
ในการขับรถเดินทาง ผู้ที่มีประสบการณ์ขับรถมานานหลายปี ย่อมจะรู้ดีว่าหากจะต้องเดินทางไกลขับรถออกต่างจังหวัดจะต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ทั้งเรื่องของการต่อประกันรถให้เรียบร้อย การตรวจเช็คสภาพรถ การเตรียมเรื่องของเส้นทางที่จะใช้ในการขับขี่ ซึ่งคนที่ขับรถออกต่างจังหวัดบ่อย ๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะดูเลขบนหลักกิโลเมตรเป็น ซึ่งก็จะขับได้อย่างมั่นใจว่าเส้นทางที่ใช้จะมุ่งหน้าสู่จุดหมายในอีกระยะทางเท่าไหร่ แต่สำหรับมือใหม่แล้วก็จะต่างกันไป บางทีไม่มีการวางแผนการเดินทางก่อน ลืมต่อประกันรถบ้าง หลักกิโลเมตรก็อาจจะดูไม่ค่อยเป็น ขับไปก็มองผ่าน ๆ ไปเท่านั้น เพราะอาศัย GPS กับป้ายบอกทางมากกว่า ซึ่งคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักเป็นแบบนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า ในเมื่อคนยุคนี้ไม่ค่อยมองหลักกิโลหรือใช้ประโยชน์กับสิ่งนี้กันนัก แล้วทำไมจะต้องเสียงบประมาณนำมาปักไว้ด้วย
- สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป – หลักกิโลเมตรช่วยบอกระยะทาง ว่าจุดหมายที่จะไปอยู่อีกไกลแค่ไหน
- สำหรับหน่วยงานราชการ – เหตุที่ยังต้องมีการปักหลักกิโลเมตรเอาไว้ก็เพื่อเป็นตัวกำหนดขอบเขตการดูแลรักษาเส้นทางของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้งานการดูแลถนนหนทางไม่ทับซ้อนกัน อย่างหลักกิโลที่มีตราครุฑ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมทางหลวง ส่วนหลักกิโลที่มีตราเทวดา 3 องค์จะเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมโยธาธิการและผังเมือง การมีหลักกิโลปักไว้จึงช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานกันได้อย่างสะดวกมากขึ้น
นี่คือ ความสำคัญของหลักกิโลเมตรที่เราพบเห็นกันตลอดเวลาขับขี่เดินทาง อย่างไรก็ดีจะดูหลักกิโลเป็นหรือไม่ก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่ยังมีเครื่องมืออื่น ๆ ช่วยบอกเส้นทางและระยะทางอยู่ก็สามารถใช้ทดแทนกันได้ แต่สิ่งที่คุณจะลืมไปไม่ได้เลยในการขับขี่ออกต่างจังหวัดก็คือ เรื่องของความปลอดภัย แนะนำว่าคุณควรมีการประกันรถเอาไว้ อย่างน้อย ๆ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้คุณอุ่นใจมากขึ้นเวลาเดินทาง หากมีเหตุไม่คาดคิดก็ยังได้รับความคุ้มครองตามสัดส่วนช่วยให้คุณเบาแรงเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปได้บ้างนั่นเอง